วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Present Tense

     


     Tenses หมายถึง กาล หรือเวลา ซึ่งก็คือรูปแบบของกริยาที่แสดงเหตุการณ์ หรือการกระทำต่างๆ ว่าเกิดขึ้นในปัจจุบัน ในอดีต หรือในอนาคต แบ่ง Tenses ออกเป็น 3 จำพวกใหญ่ๆ ได้แก่
     1. Present Tense  ปัจจุบันกาล
     2. Past Tense  อดีตกาล
     3. Future Tense  อนาคตกาล
Present Tense
     Present Tense คือ รูปแบบของคำกริยาที่แสดงถึงเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นในกาลปัจจุบัน แบ่งออกได้เป็น 4 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่

     รูปแบบของ  Present Tense                                    โครงสร้างของ  Present Tense

     1. Present Simple                                             Subject + Verb 1
     2. Present Continuous                                       Subject + is, am, are + Verb (ing)
     3. Present Perfect                                             Subject + have, has + Verb 3
     4. Present Perfect Continuous                            Subject + have, has + been + Verb (ing)

     Present Simple Tense  (โครงสร้าง Subject + Verb 1)
     1. ใช้กับเหตุการณ์ หรือการกระทำที่เป็นจิงเสมอไป หรือเป็นเรื่องจริงของธรรมชาติ
     เช่น It's hot in summer.  มันร้อนในฤดูร้อน 
           The sun rises in the east.  ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก


     2. ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นจริงในขณะที่พูด ไม่ว่าก่อนหน้าที่พูดหรือหลังจากพูดจะเป็นอย่างไรก็ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือต้องเป็นจริงในขณะที่พูดก็พอ
     เช่น I have a pen in my purse.  ฉันมีปากกาหนึ่งด้ามในกระเป๋าของฉัน (ประโยคข้างต้นนั้นเป็นจริงในขณะที่พูด คือในขณะนั้นฉันมีปากกาอยู่หนึ่งด้ามในกระเป๋าจริงๆ)


     3. ใช้กับกริยาที่ไม่แสดงลักษณะอาการที่สังเกตเห็นได้ แต่เป็นกริยาที่เกี่ยวกับความนึกคิดหรือจิตใจ
     เช่น I love him so much.  ฉันรักเขามาก
           This car belongs to him.  รถคันนี้เป็นของเขา


     4. ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นเป็นประจำ หรือเป็นนิสัย โดยในกรณีนี้มักใช้ร่วมกับคำหรือกลุ่มคำที่แสดงความถี่ในประโยค
       คำที่แสดงความถี่ ยกตัวอย่างเช่น
             always  เสมอ                                                    often  บ่อยๆ
             sometimes  บางครั้ง                                           frequently  บ่อยๆ
             usually  เป็นปกติ                                                naturally  โดยธรรมชาติ
             generally  โดยทั่วไป                                           rarely  ไม่บ่อย
             seldom  นานๆ ครั้ง                                             once a week  หนึ่งครั้งต่อสัปดาห์         
             everyday  ทุกๆ วัน                                              twice a year  สองครั้งต่อปี
             every week  ทุกสัปดาห์                                       on Saturdays  ทุกๆ วันเสาร์ เป็นต้น
ตัวอย่างประโยค
       I always get up early.  ฉันตื่นนอนเช้าเสมอ
       We play football everyday.  พวกเราเล่นฟุตบอลทุกวัน
      Present Continuous Tense  (โครงสร้าง Subject + is, am, are + Verb(ing)
มีวิธีการใช้แบ่งออกได้ดังนี้
      1. ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่กำลังเกิดขึ้น หรือกำลังกระทำในขณะที่พูด ในกรณีนี้มักจะมีกริยาวิเศษณ์ (Adverb) ร่วมอยู่ในประโยคด้วย
      เช่น My mother is cooking in the kitchen now.  แม่ของฉันกำลังทำอาหารอยู่ในตอนนี้


      2. ใช้กับเหตุการณ์ หรือการกระทำที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลายาวนานพอสมควร โดยมักจะมีคำที่บ่งบอกระยะเวลาอยู่ในประโยคด้วย
      เช่น She is learning English this month.  หล่อนกำลังเรียนภาษาอังกฤษในเดือนนี้


      3. ใช้เพื่อบอกถึงเหตุการณ์ หรือการกระทำที่กำลังจะเกิดขึ้น หรือเป็นอนาคตอันใกล้ที่ค่อนข้างแน่นอน และมักมีคำบอกเวลาอยู่ในประโยคด้วย
      เช่น We are going to Koh Chang next week.  พวกเราจะไปเกาะช้างกันในสัปดาห์หน้า


      ข้อสังเกต เมื่อในประโยค 2 ประโยคถูกเชื่อมไว้ด้วยกันเป็นประโยคเดียวโดยที่มีประธานตัวเดียวกันนั้น ไม่ต้องใส่กริยาช่วยในประโยคที่ 2
      เช่น I am doing my homework and listening to the radio.  ฉันกำลังทำการบ้านและฟังวิทยุ
      (ไม่ใช่ I am doing my homework and am listening to the radio เพราะมี I เป็นประธานตัวเดียวกันของกริยาทั้ง doing และ listening จึงไม่ต้องมี am หลัง and อีก)


      Present Perfect Tense  (โครงสร้าง Subject + have, had + Verb 3)
มีวิธีการใช้ดังนี้
      1. ใช้กับเหตุการณ์ที่เริ่มเกิดขึ้นในอดีต และยังคงดำเนินต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันในขณะที่พูด
      เช่น I have lived here since 2000  (ฉันได้อาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 และในตอนนี้ก็ยังคงอาศัยอยู่)


      2. ใช้กับเหตุการณ์ หรือการกระทำที่เกิดขึ้นหลายครั้งในอดีต และอาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคตโดยไม่ได้บอกว่าเกิดขึ้นเมื่อไร แต่มักมีคำกริยาวิเศษณ์ (Adverb) ที่บอกความถี่ประกอบอยู่ในประโยคด้วยเสมอ
      เช่น She has driven to that beach several times.  (หล่อนขับรถไปที่ชายหาดแห่งนั้นหลายครั้ง)


      3. ใช้กับเหตุการณ์ หรือการกระทำที่เคยหรือไม่เคยทำในอดีต โดยมักจะมีคำกริยาวิเศษณ์ (Adverb) เหล่านี้ประกอบอยู่ในประโยคด้วย ได้แก่ ever (เคย), never (ไม่เคย), once (ครั้งหนึ่ง), twice (สองครั้ง) เป็นต้น
      เช่น I have never been to London before.  (ฉันยังไม่เคยไปลอนดอนมาก่อน)


      4. ใช้กับเหตุการณ์ หรือการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีต และส่งผลมาถึงปัจจุบันหรือในขณะที่พูดอยู่
      เช่น He has turned on the light.  (เขาได้เปิดไฟไว้แล้ว)


      5. ใช้กับเหตุการณ์ หรือการกระทำที่เพิ่งจบลงไปไม่นาน โดยมักจะมีกริยาวิเศษณ์ (Adverb) เหล่านี้มาประกอบอยู่ในประโยคด้วย ได้แก่ just (เพิ่งจะ), yet (ยัง), finally (ในที่สุด), eventually (ในที่สุด), recently (เมื่อเร็วๆ นี้) เป็นต้น
      เช่น We have already had dinner.  พวกเราทานอาหารเย็นเรียบร้อยแล้ว


      Present Perfect Continuous Tense  (โครงสร้าง Subject + have, has + been + Verb (ing)
มีวิธีการใช้ดังนี้
      1. ใช้กับเหตุการณ์ หรือการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีต ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันและดำเนินต่อไปในอนาคต
      เช่น I have been driving for an hour.  (ผมได้ขับรถมาเป็นเวลา 1 ชั่วโมงและยังขับต่อไปอยู่)


      ข้อสังเกต ความแตกต่างระหว่าง Present Perfect Tense กับ Present Perfect Continuous Tense ต่างกันตรงที่ Present Perfect Tense นั้นเป็นเหตุการณ์ หรือการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีตและต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน หรือในขณะที่พูดแต่ไม่แน่ว่าจะดำเนินต่อไปในอนาคตหรือไม่ ส่วน Present Perfect Continuous Tense เป็นเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นในอดีตและต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และที่สำคัญคือ ยังดำเนินต่อไปในอนาคตด้วย
                          

24 ความคิดเห็น:

  1. ควยเหอะยาวหาพ่อครูให้กูจดจนหมดสัส

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่ระบุชื่อ3 มกราคม 2560 เวลา 06:48

      5555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555

      ลบ
    2. สมน้ำหน้าละ ปากแบบนี้

      ลบ
    3. ควายอย่างมึงก็คิดได้แค่นี้เหละ ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ

      ลบ
    4. ขอบคุณมากๆสำหรับความรู้ที่มากมาย

      ลบ
    5. บอกครูนะคะ ว่าจด มันไม่ได้ทำให้มีความรู้ขึ้นมา ถ้าไม่ได้ตั้งใจที่จะหาอะไรเกี่ยวกับสิ่งนั้นๆเอง

      ลบ
  2. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

      ลบ
  3. ครูสั่งทำโครงงานเรื่อง present perfect continuousครูบอกเนื้อหาไม่พอขนาดรวมมาหลายเว็ปหนูนี่ร้องโฮเลยค้าา😂

    ตอบลบ
  4. ยอดเยี่ยมขอบคุณค่ะ แต่คำว่าwhile กับwhen นี่คั่นประโยค ใช้ยังไงเหรอคะ?

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. whenคือเมื่อ ใช่นำหน้าประโยคเวลาต้องการถามว่า ที่ไหน เป็นต้น😝

      ลบ
  5. ขอบคุณสำหรับความรู้คะ

    ตอบลบ
  6. ดีคะเพราะก็ลอกในนี้ตอนทำรายงานและถูกด้วยคะ������

    ตอบลบ
  7. ไม่เข้าใจเลยจริงๆๆ5555��

    ตอบลบ
  8. จีจี้ ม1/2 ครูไห้ทำรายงาน

    ตอบลบ
  9. Present Perfect Tense (โครงสร้าง Subject + have, had + Verb 3) แก้เป็น have กับ has นะคะ พิมเร็วคงผิด

    ตอบลบ